ขอกล่าวคำว่า
"สวัสดีปีใหม่" อย่างเป็นทางการแด่คุณผู้อ่านที่รักทุกท่านครับ
พร้อมกันนี้ขอสวัสดีวันเด็กวันครูและวันหวยออกไปพร้อมๆกันเลยก็แล้วกัน
หวังว่าผู้ท่านทุกท่านคงสบายดีกันถ้วนหน้านะครับ
ปีใหม่นี้ผมขออวยพรให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขสมหวังร่ำรวยๆหล่อๆสวยๆถูกหวยทุกงวด
สุขภาพแข็งแรง จิตใจเข้มแข็งเบิกบานสราญรมย์ตลอดไปเลยนะครับ
เที่ยวปีใหม่ที่ไหนก็ขอให้เดินทางปลอดภัยไร้กังวลครับ
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก
แป๊บๆผ่านไปอีกปีแล้วมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ตั้งใจจะทำตั้งแต่ปีที่แล้ว
แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้เริ่มต้นเลย น่าเสียดายเวลาที่ผ่านไป
คุณผู้อ่านอย่าได้เอาอย่างผมนะครับ
ขอให้ปีใหม่นี้เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เริ่มต้นทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกท่านครับผม
ช่วงปลายเดือนธันวาคม
ผมตกงานกลางอากาศ ทำให้ผมจำเป็นต้องออกหางานใหม่ นั่งเสิร์ชหาในเน็ต
ผมเจองานๆนึงซึ่งน่าสนใจดี นั่นคือ
งานดูแลสัตว์ในสวนสัตว์ของสวนสนุกชื่อดังแห่งนึงในชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
ผมโทรไปสอบถามทันที ก็ได้ความว่า ผมต้องเดินทางไปสมัครด้วยตัวเองที่นั่น
อีกหนึ่งวันให้หลังผมก็เดินทางไปที่ชะอำ
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวอันน่าประทับใจของผม
ที่ผมอดจะเล่าให้คุณผู้อ่านได้รับรู้ด้วยไม่ได้
ผมเคยได้ยินว่าถ้าจะไปที่ไหน
ให้เริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้วจะไม่ผิดหวัง แล้วผมก็ไม่ผิดหวัง
มีรถตู้ให้นั่งไปชะอำอย่างที่คิดไว้ สนนราคาอยู่ที่หนึ่งร้อยหกสิบบาทต่อเที่ยว
ก่อนเดินทางผมไม่ลืมที่จะเติมพลังด้วยเกาเหลาข้าวเปล่าหนึ่งชุด
ให้อิ่มสบายท้องก่อน เพราะคงอีกนานกว่าจะไปถึง
ใช้เวลาเดินทางประมาณสามชั่วโมง ผมก็ไปถึงที่หมาย เมื่อกรอกใบสมัครและยื่นเอกสารเสร็จสรรพ
ตอนนั้นเวลาอยู่ที่ประมาณบ่ายสองโมงนิดๆ เลยคิดว่า ไหนๆก็มาแล้ว
ไปเดินเล่นดูวิวที่หาดชะอำต่อดีกว่า
มานั่งรอมินิบัสสีส้มประจำทางอยู่ประมาณเกือบชั่วโมง(นานมากกว่าจะมาคันนึง)
อีกประมาณครึ่งชั่วโมงให้หลัง ผมก็ไปถึงชายหาดชะอำอย่างที่ตั้งใจ พบว่า
มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าที่คิดไว้จากการสอบถามร้านค้าริมชายหาดได้ความว่า
นักท่องเที่ยวน้อยจริงๆเพราะน่าจะเป็นเพราะหวั่นวิตกกับเหตุการณ์ทางการเมืองนั่นเอง
ทั้งๆที่ช่วงนี้ของทุกนักท่องเที่ยว(ฝรั่ง)จะหนีหนาวมาฉลองคริสมาสต์ที่นี่กันอย่างคึกคึก
สำหรับผมแล้ว ผมชอบนะ ไม่วุ่นวายไม่แออัด ผมก็เดินกินลมชมวิวของผมไปเรื่อย
กะว่าสักห้าหกโมงเย็นค่อยกลับ เดินไปซักพักชักเปรี้ยวปาก
เพราะบรรยากาศมันรื่นรมย์ดีแท้
ว่าแล้วก็เดินเข้าร้านสะดวกซื้อเปิดเบียร์เย็นๆมาหนึ่งขวด
เดินดูวิวไปกระดกเบียร์ไปเพลินดีครับ ทอดน่องไปเรื่อย เผลอแปบเดียวหมดไปสามขวด
อีตอนนั้นมันเริ่มติดลมแล้ว เริ่มไม่แน่ใจว่าจะกลับหรือจะนอนซักคืนดี
ฟ้าก็เริ่มมืดลงเรื่อยๆ เดินคิดไปคิดไม่ออก ก็เลยนั่งคิด
นั่งคิดก็ยังตัดสินใจไม่ได้ ก็เลยไปเอาเบียร์มาช่วยตัดสินใจอีกขวด
ซักพักก็รู้แล้วว่าจะทำไงดี ผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า ที่พล่ามมาตั้งนานเนี่ย
ยังไม่เห็นเลยว่า มันน่าประทับใจตรงไหน ยังครับๆ อีกนิดนึง
ผมคิดว่าจะหาร้านอินเตอร์เน็ตซักร้านแล้วสิงสถิตที่นั่นซักคืนหุๆ
ถูกว่าเปิดโรงแรมนอนเป็นไหนๆเห็นเด็กในกทม.มันกินนอนในร้านเน็ตเยอะแยะไป
ขอเลียนแบบซักคืนนะเพ่
ว่าแล้วก็ถามร้านค้าแถวนั่นดูว่าอยู่ตรงไหน แล้วก็ตรงดิ่งไปในทันที
เดินหาตั้งนานกว่าจะเจอ ผ่านไปผ่านมาก็ไม่เห็น สงสัยจะเมา แหะๆ
พอไปถึงก็ต้องผิดหวัง เพราะ อินเตอร์เน็ตร้านเดียวร้านนั้นปิดสี่ทุ่ม โอ้
เจ้าประคุณรุ่นช่อง เซ็งสุดๆ แถมเน็ตก็ชั่วโมงตั้งสี่สิบแน่ะ เจ้าของร้านบอก งี้แหละ
เมืองท่องเที่ยว ในใจคิด ผมคนไทยนะพี่โห
แต่ไหนๆก็ไหนๆ ก็เลยเล่นไปชั่วโมงนึง
ชั่วโมงเน็ตหมดลง ก็เคว้งคว้างเอาไงดีหว่า
คิดไม่ออกก็ไปเอาเบียร์มาช่วยคิดอีกขวด แล้วไปนั่งทอดอารมณ์ที่ม้านั่งริมหาดหน้าร้านเน็ตนั่นแหละ
คุณผู้อ่านครับ ไฮไลท์มันอยู่ตรงนี้ครับ
ตรงหน้าของผมคือท้องทะเล
ที่ระยิบระยับไปด้วยแสงนวลของพระจันทร์เต็มดวง ทอดแสงลงมายังชายหาดขาวสะอาด
ลมหนาวพัดเอื่อยๆมาปะทะดวงหน้า มีสามสหายมานั่งกินเบียร์ริมหาดข้างหน้า
พูดคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุข ผมขยับเสื้อกันหนาวตัวเก่งให้กระชับขึ้นอีก
ในใจผมกลับอบอุ่นอิ่มเอมเหลือเกินกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันช่างธรรมดา
และเรียบง่ายนัก ทว่างดงามในแบบที่มันเป็น เป็นธรรมชาติ
ไม่มีการแต่งการเซ็ทเหมือนในหนัง ไม่มีความหวั่นวิตกใดๆอีก จิตใจผมผ่อนคลายเต็มที่
ความเมามายของผมก็อยู่ในระดับพอเหมาะ ก็เลยตัดสินใจเอนกายลงบนม้านั่งยาวริมหาดนั่นเอง
แล้วก็หลับไปอย่างเป็นสุข
ผมคิดว่าจะซึมซับเอาความความประทับใจนี้มาบอกกล่าวให้คุณผู้อ่านได้รับรู้ในสักวัน
และวันนั้นได้มาถึงแล้ว ......
ปล. ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเช้าตรู่ รีบดิ่งไปห้องน้ำทันที
โดยไม่เฉลียวใจอะไรเลยซักนิด กับแกล้มหมึกย่างเมื่อวานทำพิษซะแล้วทำธุระเสร็จ
คลำไปตามเนื้อตัวเช็คข้าวของ คุณพระช่วย โทรศัพท์หายไปไหน
ผมรีบตรงไปวิมานม้ายาวตัวนั่นทันที ไม่มี ตรงนั้นละ ก็ไม่มี ร้านเน็ตละ
ก็ไม่มี สาละวนหาโทรศัพท์อยู่นานโข
ก็เริ่มปลง เฮ้อ ชีวิตคนเราช่างไม่มีอะไรแน่นอนเลยซักนิด
แฮปปี้นิวเยียร์อีกครั้งครับผม
จากใจมิสเตอร์เฮิร์บคนเดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น