วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

ไม่ต่างกัน

Intro:D Bm D Bm


Dทุกวันโลกเรามันก็หมุนไป Bmเรื่องราวอันหลากหลาย Dที่เคยมีอยู่อยู่มันหายไป Bm ได้รู้ก็ใจหายGได้แต่ทำAใจให้ยอมรับDมัน
Dล่องลอยว่ายวนบนกระแสธารBm แห่งกาลเวลา Dไม่ใช่แค่เพียงเธอที่อ่อนล้า Bmฉันเองก็คล้ายๆ Gมันก็เป็นAไปตามทางของDมันA


*Gลองต้านAทานแต่เอาไม่F#mอยู่ ไม่อาจBmฝืน A GวันและAคืนแปรไปฉันเปลี่ยนD A G ใจที่Aเคยมั่นคง ตอนนี้F#mมันเริ่มผิดBmเพี้ยน A Gเปลี่ยนไปเป็นAคนที่ฉันเคยเกลียด Gเปลี่ยนไปเป็นEmคนที่ฉันเคยตัดสิน Aว่าเขาเป็น


**อย่างDนั้น อย่างDmaj7นี้ ไม่Bmดี Gทั้งๆAที่รู้จักDเขา ไม่เท่าDmaj7ไหร่ ไม่ชอบBmใจ ก็Gให้ร้ายเขาAโดยไม่Dรู้ ไม่เข้าDmaj7ใจ ไม่เห็นBmใจ สุดGท้ายที่Aเจอไม่Dต่างกัน ***ไม่ต่างกันเลย


Dลำพองทนงตนว่ามีดี Bmแต่ดีไม่พอ DมัวเมาหลงเพลินกับคำเยินยอBm ท้อใจเมื่อรู้ GความจริงมันAช่างขมขื่นสิ้นDดี (ซ้ำ*,**,***,***,***)


กราบสวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านอีกครั้งนึงครับ สำหรับตอนนี้ ผมขออนุญาตินำเสนอผลงานเพลงของผมอีกหนึ่งเพลง ผ่านช่องทางบล็อกที่ชอบๆแห่งนี้ เอาไว้ในอ้อมใจของคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน สำหรับตัวของเฮิร์บเอง เฮิร์บเป็นเพียงคนยาก ระหกระเหินมาทำงานต่างถิ่นต่างที่ สำหรับผู้อ่านที่รักใคร่และเอ็นดูเฮิร์บ ขอเพียงรักเฮิร์บน้อยๆ แต่ขอให้รักนานๆ เพียงเท่านี้ก็เป็นดังน้ำทิพย์ชโลมใจ ให้เฮิร์บน้อยๆคนนี้มีกำลังใจสามารถต่อสู้ข้ามผ่านอุปสรรคปัญหาต่างๆที่รายล้อมเข้าในชีวิต ไปได้ด้วยดีแล้วละครับกระผม เอิ้กๆๆๆมาลูกอ้อนแบบพี่เป้าครับ เอิ้กๆๆๆ


เป็นอีกหนึ่งเพลงที่เขียนขึ้นมาไล่ๆกันกับเพลง ปลายทางครับ เขียนขึ้นจากประสบการณ์ชีวิตของผมเองและจากคนอื่นๆในสังคมเราที่ท่านสามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวันครับ เมื่อเวลาที่เรายังเด็กเมื่อประสบการณ์ชีวิตยังอ่อนด้อย เรามักจะเชื่ออะไรโดยง่าย ขาดวิจารณญาณ เชื่อโดยไม่ผ่านการคิดพิจารณาถึงเหตุผลข้อเท็จจริงกันสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าตัวเราเองณ ขณะนั้นจะเชื่อว่าเรามีเหตุผลแล้วก็ตาม พอเราเติบโตขึ้น พบเจอเรื่องราวอันหลากหลาย มุมมองในเรื่องเดิมจากที่เคยเห็นภาพแบบนึง กลับมองเห็นภาพอีกแบบและยังรู้สึกต่างออกไปจากเดิมอีกด้วย หลายๆกรณีในชีวิตของผม ที่ผมเคยปรามาส เคยคิดเคยตัดสินคนอื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ คนใกล้ตัว หรือแม้กระทั่งคนที่ผมไม่เคยรู้จักมักคุ้นมาก่อน ว่าเขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เหมือนอย่างที่เขียนในเนื้อเพลง ซึ่งมันมักจะย้อนกลับมาตอกหน้าตัวผมเองอยู่บ่อยๆ หลายๆครั้งผมสังเกตุว่ามันเป็นธรรมชาติบางอย่างของมนุษย์ปุถุชนอย่างเราๆนี่แหละ ในขณะที่อีกหลายๆกรณี ผมกลับสังเกตุเห็นความจงใจของใครหรืออะไรบางอย่าง ที่ต้องการทำให้เราเชื่อว่า เราเป็นคนแบบนั้นจริงๆซึ่งจริงๆแล้ว มันไม่จริงเลย เพราะมันมีทางเลือกอยู่ สุดแท้แต่ว่าจะเลือกทำหรือไม่ทำก็เท่านั้นเอง แต่ในเพลงนี้ ผมเลือกที่จะสื่อสารว่า ความผิดพลาดผิดพลั้งของคนนั้น สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกชนชั้นได้ ไม่แตกต่างกันเลย การกล่าวโทษการประนามหยามเหยียด การตัดสินผู้คนด้วยความรู้สึกและปราศจากสติยั้งคิดหรือที่เค้าเรียกกันว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์นั้น ไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใดเลย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเสมอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และมันคงจะเกิดขึ้นอีกต่อไปในอนาคต
การกล่าวพาดพิงถึงคนอื่นโดยปราศจากอคติ คงต้องอาศัยสติ วิจารณญาณ ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความรู้ ประสบการณ์ชีวิตอยู่ไม่น้อย ทั้งนี้ทั้งนั้น การหลีกเลี่ยงการตำหนิติเตียนผู้อื่นก็คงเป็นการดีที่สุด หากแต่สังคมที่ไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์กันได้เลย ก็เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเช่นกัน ยิ่งสังคมใดที่ชอบเอ่ยอ้างสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยละก้อ ยิ่งจำเป็นต้องพร้อมเปิดใจให้กว้างในการรับฟังทั้งคำชมและการติเตียน เพื่อแก้ไขให้ดีขึ้นจากคำครหาตำหนิ และทำให้ดียิ่งๆขึ้นไปจากคำชื่นชมนั่นเอง


ต้องตอกย้ำกันอีกสักครั้งนึงว่า การยอมรับความจริง ยอมรับความบกพร่อง ความผิดพลาด ความไม่พร้อม และอีกหลายๆความที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น เป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง สังคม ประเทศชาติและโลกของเราเพื่อสิ่งที่ดีกว่า เพราะเมื่อคุณยังหลอกตัวเองอยู่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันดีอยู่แล้ว คุณก็จะไม่อยากปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรหรอก จริงไหมครับคุณผู้อ่าน
ไม่ได้สนับสนุนให้ใครๆมานั่งจับผิดกันนะครับ แค่หมั่นสำรวจตรวจสอบตัวเอง กิจการงานในหน้าที่ของตนเองก็น่าใจพอแล้วละครับ


สำหรับตอนนี้ ขอฝากไว้เพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณทุกท่านที่ยังตามมาอ่านกันอยู่ สวัสดีเดือนเมษายนครับผม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข่าวดี มีมานานแล้วครับ

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปจากการอัพเดต​บล็อค​ไปนาน ผมก็ขออนุญาต​กลับมาทำหน้าที่อีกครั่งหนึ่ง สำหรับวั...