วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560

ครั้งแรกที่แหลมพรหมเทพ

แหลมพรหมเทพ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของภูเก็ต ที่แขกไปใครมาก็ไม่อยากจะพลาดการมาเยือนสถานที่แห่งนี้ แหลมพรหมเทพห่างจากหาดราไวย์ไม่ถึงสิบนาทีโดยรถยนต์ ว่ากันว่า วันใดที่ท้องฟ้าไร้เมฆฝน การได้มาชมพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมพรหมเทพนั้น จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืมทีเดียว
สองปีที่แล้วขณะที่ทำงานเป็นพนักงานขับรถรับส่งนักเรียนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ขณะนั้นเป็นช่วงปิดเทอม ผมและพนักงานอีกหลายคน ได้รับมอบหมายให้ขับรถพานักเรียนไปท่องเที่ยวทัศนศึกษา หนึ่งในสถานที่ที่ต้องพาเหล่านักเรียนตัวน้อยไป นั่นก็คือแหลมพรหมเทพแห่งนี้นี่เองละครับ 





แดดแรงมากๆครับวันนั้น แต่ก็ทำให้สมาร์ทโฟนบ้านๆถ่ายออกมาได้คมชัดเต็มสีสันทีเดียว






นักท่องเที่ยว กับร่มคันเล็ก จุ๋มจิ๋มเชียวคุณพี่


 โรงแรม และหาดในหาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก คุณอาจบรรจุลงไปในทริปของคุณหลังจากชื่นชมทัศนียภาพที่แหลมพรหมเทพเต็มอิ่มแล้ว


 ต้นตาลที่ขึ้นเรียงแถวไปตามทางเดิน นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาคึกคักไม่ขาดสาย


ขยับขึ้นมาอีกนิด แต่มุมเดิม ทำให้เห็นมุมมองที่กว้างขึ้นอีกหน่อย
 เดินลงจากทางเดินคอนกรีต ลงสู่ตัวแหลม ยังเล็งชัดเตอร์ไปที่หาดในหาน โดยมีต้นตาลเป็นจุดนำสายตา


 แหลมพรหมเทพที่คุณผู้อ่านมักจะคุ้นตากับมุมนี้


 เดินไปข้างหน้า แต่ยังพะวงหลัง


มุมยอดนิยมอีกสักหนึ่งที ค่อยลงต่ำไปเรื่อยๆ


 อันต้นตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก เดี๋ยวๆ ไม่ใช่แระ


 แหลมพรหมเทพ นักท่องเที่ยว และเรือรบหลวง


 เกาะอะไรไม่รู้ชื่อ แต่อยู่ไม่ห่างกัน น้ำทะเลสีสันสวยงาม


 ต้นตาลต้นนู้นรอก่อน เดี๋ยวไปหา


โดดเดี่ยวอย่างทรนง ทุ่งหญ้าเหมือนพรมสีเขียวมีชีวิต มันพริ้วไหวนุ่มนวลสบายตาจริงๆ
 ลึกลงลึกลง ยังคงหวนมองหนทางที่ผ่าน


 ลึกลงไปอีก พ้นเนินดิน เผยให้เห็นตัวแหลมพรหมเทพในมุมกลับ สังเกตุด้านขวาของรูป สัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่า ผมไม่ได้มาที่จุดนี่เป็นคนแรก


 ด้านซ้ายของแหลม ดูมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ปุยหญ้าเขียวขจีตัดกับแสงจ้าที่สะท้อนจากทะเลระยิบระยับ
อีกซักแชะนึง กันเหนียว
 ปฏิมากรรมของผู้มาเยือน แสงแดดจ้าขับให้มันดูมิติมากขึ้น ยิ่งได้สีฟ้าของท้องทะเลเป็นพื้นหลัง ยิ่งทำให้องค์ประกอบด้านขวาของภาพ ดูด้อยกว่าไปเลย แต่ผมชอบต้นตาลและเงาของมันที่ทาบผ่านลงบนผืนหญ้าสีเขียวสดนั่นมากกว่า


 ปลายสุดของแหลม มีคลื่นแรงกระแทกโขกหินเป็นระยะๆ


 โอ้ นี่มันอะไรกัน ช่างงดงามยิ่งใหญ่ราวกับไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ เอิ้กๆๆ ขำๆนะครับ การเรียงตัวระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ ของปฎิมากรรมหินเรียงเหล่านี้ กลับทำให้ดูมีชีวิตชีวา มีจังหวะมีพลวัติ รึผมคิดไปเองเนี่ย เอิ้กๆๆ


ในเมื่อชอบองค์ประกอบนี้ ก็เน้นหนักขึ้นอีกหน่อย
ก็ได้อยู่นะ อืม ใช้ได้ๆ เอิ้กๆๆๆ
 มนุษย์เรา เมื่อลงต่ำสุด ก็กลับสู่สามัญ ฮือ มันใช่เหรอวะไอ้เฮิร์บ เอิ้กๆๆ
 ทางสามแยก (สามแพร่งมันจะหลอนไป)โล่งๆโปร่งๆสบายตา


ขอปิดท้ายทริปนี้ด้วยภาพนี้ครับ บนตัวแหลมที่รายล้อมไปด้วยต้นกระถินณรงณ์


นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสไปเยือนสถานที่แห่งนี้ และมีโอกาสเก็บภาพประทับใจเหล่านี้ไว้ด้วย ช่วงเวลาที่ไม่ถึงสองชั่วโมงที่อยู่ที่นั่น นับว่าคุ้มค่ามากสำหรับผม
แม้ว่าภาพถ่ายเหล่านี้จะมีอายุล่วงเลยมากว่าสามปีแล้วก็ตาม แต่ภาพชุดนี้ก็ยังสดใหม่เสมอในความรู้สึกของผม แน่นอน ผมก็คงไม่อาจเก็บความประทับใจเช่นนี้ไว้ชื่นชมคนเดียวได้แน่ ก็เลยขอถือโอกาสนี้แบ่งปันให้ผู้อ่านได้ซึมซับความรู้สึกประทับใจนี้ไปด้วยกันกับผม ด้วยภาพถ่ายชุดนี้
แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข่าวดี มีมานานแล้วครับ

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปจากการอัพเดต​บล็อค​ไปนาน ผมก็ขออนุญาต​กลับมาทำหน้าที่อีกครั่งหนึ่ง สำหรับวั...