กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปจากการอัพเดตบล็อคไปนาน ผมก็ขออนุญาตกลับมาทำหน้าที่อีกครั่งหนึ่ง
สำหรับวันนี้ผมมีเรื่องราวข่าวดี ที่ผู้อ่านบางท่านอาจจะเคยได้รู้ได้เห็นผ่านสื่อหลักอย่างทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์หรือแม้แต่สื่ออนไลน์เอง ก็น่าจะเคยผ่านหูผ่านตาคุณผู้มาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย แต่ในที่นี้จะเป็นการทบทวนเรื่องราวข่าวดีดังกล่าวให้ผู้ที่ยังไม่เคยได้รู้ ได้ยินได้ฟังมาก่อน ได้รู้และอาจนำไปสู่การปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในการทิ้งขยะของคุณผู้อ่านในอนาคตก็เป็นได้
คุณผู้อ่านจำเรื่องที่ผมนำเสนอไปเรื่องขยะพลาสติกได้ไหมครับ ในตอนนั้นผมได้ตั้งคำถามเกี่ยวการจัดการขยะพลาสติก ว่าเราควรจะให้มันไปสิ้นสุดที่ไหนดี ใช่แล้วครับ ข่าวดีที่ผมเกริ่นไว้ข้างต้น ก็คือ เรามีที่ให้ขยะพลาสติกและ ผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์เหลือทิ้ง โฟม หรือแม้แต่ขยะที่เป็นผลพวงจากผลิตภัณฑ์จากยางพารา และอื่นๆ ไปที่ชอบๆได้แล้วครับ ที่น่าทึ่งกว่านั้นก็คือ เขาคิดและทำได้มานานแล้วครับ จากคลิปในยูทูปที่ผมไปไล่ดู มีคลิปนึงเกี่ยวกับเรื่องจัดการขยะพลาสติกนี้ มีคนลงไว้ให้ดูตั้งแต่สิบปีที่แล้ว และมีคลิปอื่นๆอีกมากมาย แต่ก็ยังนานเป็นห้าหกปี ที่คนเรา รวมถึงคนไทย ได้ประสบความสําเร็จในการจัการขยะพลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดีที่สุดแล้วสำหรับปัญหาที่เรากังวลและเผชิญอยู่ นั้นคือการนำเอาขยะพลาสติกและพรรคพวกมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันนั่นเองล่ะครับคุณผู้อ่าน มันอาจจะเกินความสามารถของคนธรรมดาอย่างเราๆ สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดการนี้ แต่ก็ไม่ได้มากเกินไปสำหรับ ระดับชุมชน เช่นเทศบาลตำบล หรืออำเภอ ซึ่งสามารถดึงงบประมาณอันเกินกำลังของพวกเรามาจากภาครัฐได้
ผมจะอธิบายให้คุณผู้อ่านได้เห็นภาพคร่าวๆว่า เขามีแนวคิดและวิธีการอย่างไรในการทำสิ่งที่ว่ามานี้
เนื่องจากพลาสติกที่เรานำมาใช้สอยกันนี้ มันมีที่มาจากอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเคมี ดังที่ผมได้เคยนำเสนอคุณผู้อ่านไปในตอนที่ชื่อว่า "ที่มา"ผู้คนกลุ่มหนึ่ง จึงคิดว่าน่าจะดี ถ้าทำให้ขยะที่ย่อยสลายยากพวกนี้ กลับสู่สถานะเดิมที่มันเคยเป็น นั้นก็คือ น้ำมันปิโตรเลียม
เมื่อคิดได้ดังนี้พวกเขาเลยออกแบบเครื่องจักรสำหรับการทำให้แนวคิดนั้นเป็นจริงขึ้นมา เราเรียกวิธีการนี้ว่า ไพโรไลซีส( pyrolysis) คือการเผาด้วยอุณหภูมิ1200 องศาเซลเซียสขึ้นไปในระบบปิด(โดยไม่ใช้อากาศหรืออ็อกซิเจนมาช่วยในการเผาไหม้) ทั้งนี้ทั้งนั้นขยะพลาสติกที่จะสามารถนำเข้าสู่กระบวนการเผานั้น ต้องมีความสะอาดประมาณนึงครับ กล่าวคือ ต้องแห้ง ไม่มีเศษอาหาร เศษดินโคลน หรืออื่นใดอันที่อาจจะทำให้การเผาไหม้ด้อยประสิทธิภาพลง
เท่าที่ผมรู้ตอนนี้มหาวิทยาลัยอย่างน้อยๆสามแห่ง(ผมเชื่อมีมากกว่านี้)ได้ทำเรื่องนี้ให้เป็นจริงแล้ว มาเป็นเวลามากกว่าห้าปี มีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตสงขลา นอกจากนั้นยังมีผู้ประกอบการเอกชนอีกอย่างน้อย หนึ่งแห่งคือ ศูนย์กรรมธรรมชาติ ท่ามะขาม จังหวัดกาญจนบุรี(ซึ่งผมก็เชื่อว่ามีมากกว่านั้นอีกเหมือนกัน)ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมนี้ให้เกิดขึ้น และยังตอบแทนชุมชนและสังคม อย่างน่าชื่นชมด้วยผลิตผลจากขยะพลาสติกของชุมนนั่นเอง คุณผู้อ่านตามไปอ่านเรื่องราวน่าประทับใจนี้ได้ที่นี่ครับ
https://readthecloud.co/plastic-pyrolysis-oil/
คุณผู้อ่านที่ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ ลองไปดูคลิปในยูทูปก็ได้ครับ เกี่ยวกับเรื่องนี้ที่เป็นคลิปของไทยผมเห็นอยู่หลายคลิปเลย ลองเอาคีย์เวิร์ดไปเสิร์จดูนะครับ
สงสัยอยู่นะครับว่า ผู้ผลิตน้ำมันอย่างการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยจะมองเห็นโอกาสในวิกฤติการณ์ขยะนี้หรือไม่ จะเสียเวลาเสียเงินมากมายไปเพิ่มสำรวจแหล่งน้ำมันไปทำไม ในเมื่อเรามีน้ำมันมากมายอยู่กลาดเกลือน ดาษดื่น
พอได้รู้ว่าขยะพลาสติก และพรรคพวก สามารถนำมาผลิตน้ำมันได้ ผมก็อยากสนับสนุนให้ไ้อ้เครื่องเผาขยะที่ว่านี้ มีในชุมชน อย่างน้อยตำบลละหนึ่งที่ เพื่อบรรเทาวิกฤติการณ์ขยะล้นเมืองที่เป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกซักทีของประเทศไทย แน่นอนว่า เครื่องมือเครื่องจักรเหล่านี้จะมีดีมีประสิทธิภาพเพียงใด ก็ยังไม่อาจแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เรายังมีงานอื่นที่ต้องคำนึงถึง และต้องทำไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์ในคนทิ้งขยะให้ถูกที่ แยกขยะแต่ละชนิดไม่ปะปนกัน และจัดการให้มันไปในที่ที่มันควรไป เหมือนพลาสติกนี่แหละครับ ซึ่งมันยากมากเลยครับ ที่ผู้คนมากมายจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมที่คุ้นชินได้ง่ายๆ มันไม่ได้จบลงเหมือนการทิ้งขยะออกไปให้พ้นตัวแน่ๆครับ เมื่อมันไม่จบ มันก็ก่อปัญหามาให้เรากลับไปแก้ไขอยู่ดี และถ้าเราเพิกเฉยต่อปัญหา ลูกหลานของพวกเราก็จะต้องมาแก้ในที่สุด
ทุกวันนี้ผมยังใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน สิ่งที่ผมเห็นในสองข้างทางในภูเก็ต ไม่ได้ต่างจากสองข้างทางที่บ้านเกิดของผม มันเต็มไปด้วยขยะครับ นี่คือเรื่องจริงที่ไม่อาจปฏิเสธ ประชากรส่วนหนึ่งของประเทศนี้ยังคงสร้างปัญหาไม่รู้จบ ที่แย่กว่านั้นคือ พวกเขาไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ทำลงไปมันคือการสร้างปัญหา และคนที่รู้สึกเดือดร้อนกังวลกับปัญหานั้นอย่างผม กลายเป็นไอ้พวกโลกสวยไร้เดียงสาไปซะอย่างงั้น
สถานการณ์ปัจจุบันผู้คนทั่วโลกยังคงประหวั่นพรั่นพรึงกับไวรัสโควิต19 นี้จะเป็นเรื่องที่ผู้คนพูดถึงจดจำและเข็ดขยาดไปอีกนานแสนนาน มีคนตายจากไวรัสชนิดนี้ไปกว่าหนึ่งแสนคนแล้วทั่วโลก ในยุโรปและอเมริกามีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย เมืองท่องเที่ยวทึ่คึกคักอย่างภูเก็ตหงอยเหงาเป็นไก่ติดห่าไปเลยละครับ ผู้คนตกงาน ไม่มีรายได้ ร้านค้าธุรกิจต่างๅทยอยปิดตัวลง ผมเองก็ตกงานเช่นกัน ผลกระทบของวิกฤติไวรัสโควิต19นี้ ประเมินค่าความเสียหายไม่ได้เลยครับว่ามันมากมายมหาศาลเท่าใด และดูทีท่าว่ามันจะยังไม่จบลงง่ายๆ รัฐบาลไทย ที่ประชาชนไม่เคยพึ่งพาอะไรได้ ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์นี้ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น คงเส้นคงวา
อันที่จริง ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณผู้อ่านหดหู่ใจไปมากกว่าเดิมหรอกครับ พอดีว่าอารมณ์มันพาไป
ยังไงๆผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทุกท่านนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียสละหลายๆอย่างเพื่อปกป้องดูแลพวกเรา ขอให้ทุกท่านปลอดภัย ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งกลายปกป้องท่านผู้เสียสละเหล่านี้ให้แคล้วคลาดจากภยันอันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วยนะครับ ส่วนรัฐบาล และพรรคพวกรวมไปถึงองค์กรอิสระต่างนานาที่รับใช้เผด็จการ ที่ไม่เคยแก้ปัญหา มีแต่สร้างเพิ่ม ก็ขอให้พินาศล่มจม ตกนรกหมกไห้ ตายโหงตายห่าไปซะทีเถิด สาธุ
ขออภัยคุณผู้อ่านที่เป็นติ่งรัฐบาลด้วยนะครับ แต่ผมมันสุดจะทนแล้วจริงๆ
ขออภัยอีกครั้งครับ เริ่มต้นด้วยข่าวดี ลงท้ายไปสาปแช่งเค้าซะอย่างงั้นไป เอิ้กๆๆๆๆ
ดีใจที่ได้กลับมาทำสิ่งที่รักครับผม ขอให้ผู้อ่านที่รักทุกท่านจงเข้มแข็งกำลังใจกายที่พร้อมรับทุกสถานการณ์ หวังว่าสิ่งเลวร้ายจะผ่านพ้นไปในเร็ววัน เราจะยังหยัดยืน และสู้ไปอย่างทรนง องอาจ
ขอให้คุณพระคุ้มครองทุกท่าน สวัสดีครับ
ที่ไหนๆก็ได้ ขอให้เราชอบก็พอ ไม่ต้องรอให้ตายก่อนก็ไปได้ ทั้งโลกแห่งความจริงและโลกสมมุติ ที่ๆทุกอย่าง เป็นไปอย่างที่เรา อยากให้เป็น
วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2563
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ข่าวดี มีมานานแล้วครับ
กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปจากการอัพเดตบล็อคไปนาน ผมก็ขออนุญาตกลับมาทำหน้าที่อีกครั่งหนึ่ง สำหรับวั...
-
รับปากกับข้า ว่าเอ็งจะยึดมั่นอยู่ในศีลธรรม อย่าได้ใช้ดนตรีไปในทางที่เสื่อม คิดเอาดีเอาเด่น หักหาญผู้อื่นเป็นขาด และต่อแต่นี้...
-
ฟอร์เรสท์ กัมพ์ อัจฉริยะปัญญานิ่ม (Forrest Gump) เป็นภาพยนตร์แนวชีวิต - เบาสมอง ที่ออกฉายใน ค.ศ. 1994...
-
แหลมพรหมเทพ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของภูเก็ต ที่แขกไปใครมาก็ไม่อยากจะพลาดการมาเยือนสถานที่แห่งนี้ แหลมพรหมเทพห่างจากหาดราไวย์ไม่ถึงสิบนาทีโดยรถย...