วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

ดนตรีจะทำให้เอ็งเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้ไปในที่ๆไม่เคยไป และได้รู้สึกในสิ่งที่เป็นทิพย์







รับปากกับข้า ว่าเอ็งจะยึดมั่นอยู่ในศีลธรรม อย่าได้ใช้ดนตรีไปในทางที่เสื่อม คิดเอาดีเอาเด่น หักหาญผู้อื่นเป็นขาด และต่อแต่นี้ เมื่อเอ็งเข้าใจในดนตรี เอ็งจะได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้ไปในที่ที่ไม่เคยไป และได้รู้สึก ในสิ่งที่เป็นทิพย์


ไม่แน่ใจว่าโหมโรงตั้งใจทำเหมือนหรือบังเอิญเหมือน ที่เปิดตัวหนังด้วยการใช้ผีเสื้อ ที่โบยบินมาเกาะเจ้าหนูน้อยแสนซน เจ้าศรน้อยวิ่งไล่จับผีเสื้อซึ่งบินไกลออก ดูราวกับฉากเปิดตัวของหนังออสก้าอย่างฟอร์เรสกั้ม ยังไงอย่างงั้น อย่ากระนั้นเลย ผมไม่ได้มาดิสเครดิตอะไรหรอก เล่าให้ฟังเฉยๆ เพราะตัวหนังหลังจากนั้น ไม่ได้อาศัยอะไรอย่างที่หนังอย่างฟอร์เรสกั้มใช้เลย มันก็มีทิศทางของมันเองอย่างน่าสนใจ น่าสนใจอย่างไร บอกเองไม่ได้ครับ ต้องไปดูเองสำหรับใครที่ยังไม่ดู สำหรับใครที่ดูแล้ว ก็คงเข้าใจว่าผมไม่ได้มีอคติใดๆกับหนังเรื่องนี้ และกำลังจะบอกว่าทำไม หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ ได้ทั้งเงินทั้งกล่อง


ศร ศิลป์บรรเลง เด็กหนุ่มจากอัมพวา เติบโตมากับแวดวงดนตรีไทย ที่มีทั้งพ่อและครูเป็นคนๆเดียวกัน เคี่ยวกรำเจ้าเด็กน้อยไรเดียงสาให้เติบโตเป็นดั่งหนึ่งผู้เยี่ยมยุทธทางดนตรี(ระนาด) เด็กหนุ่มหยิ่งผยองพองขน หยิ่งทะนงในฝีมือของตนนัก เมื่อได้เจอบทเรียนแสนแพงจากการประชันระนาดกับขุนอินที่บางกอก หนุ่มอัมพะวาสูญสิ้นความมั่นใจ หลีกเร้นซ่อนกายจากผู้คน เมามายไร้สติ จนถึงกลับถอดใจ ว่าจะไม่กลับไปเล่นดนตรีอีกเลย
ฉากที่เพื่อนรักของศร เดินมาเจอเขานั่งทอดถอนใจอยู่ริมน้ำ ฉากเป็นสวนมะพร้าวมีหญ้าเขียวขึ้นรกครึ้ม(ผมว่าเป็นซีจีแหงเลย แต่สวยดีนะ) เพื่อนของศรบอกศรว่ามีการซ้อมดนตรีอยู่ที่วัด ทำไมไม่ไปร่วมซ้อมกันเขาละ ศรบอกว่าเลิกเล่นดนตรีแล้ว เพื่อนศรบอกว่าศรใจเสาะโลเล
ทันทีที่ศรเอนกายหลังจากหยามหยันเพื่อน ว่ามันหาได้มีความรู้เรื่องดนตรีเหมือนอย่างตนไม่ ขณะที่มองขึ้นไปบนฟ้า ศรมองเห็นทิวมะพร้าวพริ้วไหวเอนลู่ไปตามลม จังหวะนั้นเองที่ศรบรรลุถึงความจริงบางอย่าง และตื่นรู้อย่างฉับพลันทันที


ส่วนตัวผม คิดว่าหนังทำออกมาได้ดีมากๆเลย ผมสามารถเข้าใจได้อย่างที่หนังหรือผู้กำกับต้องการ ว่าจะสื่อสารอะไรกับคนดู ไม่น่าแปลกใจ ที่หนังได้รับการกล่าวขวัญถึงในด้านบวก การตลาดแบบปากต่อปาก จนเกิดปรากฏการณ์โหมโรงฟีเวอร์อยู่พักนึงทีเดียว


ความลงตัวของบทภาพยนต์ ภาพสวยๆนักแสดงมากฝีมือ ผู้กำกับที่พิถีพิถันกับงานจนออกมาเป็นอย่างที่เราได้เห็นนั้น น่าชมเชยและสมควรได้รับเสียงปรบมือดังๆเป็นที่สุด ถ้าหนังไทยทำได้แบบนี้บ่อยๆก็จะดีมากๆครับ ขอชื่นชมและขอบคุณทีมงานทุกท่านที่สร้างสรรค์งานดีๆแบบนี้ออกมาให้พวกเราคนดูได้ดูกัน ผมคงไม่ได้เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนใช่ไหมเนี่ย เอิ้กๆๆหนังก็ตั้งหลายปีแล้วเนาะ แต่ของดีๆกี่ปีๆมันก็ยังเจ๋งอยู่ดีนะ ผมว่า


สำหรับภาพผีเสื้อสองภาพแรก ถ่ายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก สุราษฎร์ธานีครับ เหลือบไปเห็นบินมาเกาะดูดน้ำหวานพอดิบพอดี ส่วนอีกภาพเป็นผีเสื้อหลงมาจากไหนไม่รู้ บินมาเกาะที่คาร์ทขนกระเป๋าเดินทางในสนามบินภูเก็ตครับ เจ้าตัวนี้เอานิ้วไปเขี่ยปีกยังไม่ยอมบินหนีเลย แจ๋วจริงนะเธอ
พอเห็นผีเสื้อบิน ผมก็นึกถึงฉากเปิดเรื่องในหนังโหมโรง เรื่องมันก็มีที่มาเช่นนี้แล จริงๆแล้วผมมีรูปผีเสื้อแบบที่เด็ดๆอีกหลายรูปเลยนะ วันหลังจะเอามาให้ดูอีกครับ ถ้ายังไม่ลืมนะ เอิ้กๆๆ สำหรับวันนี้คงต้องขอลาไปก่อน พบกันใหม่ในตอนหน้า สวัสดีครับทุกท่าน


ปล.ขอเป็นกำลังใจแด่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ทุกท่านครับ สู้ๆนะครับ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข่าวดี มีมานานแล้วครับ

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปจากการอัพเดต​บล็อค​ไปนาน ผมก็ขออนุญาต​กลับมาทำหน้าที่อีกครั่งหนึ่ง สำหรับวั...