วันเสาร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2560

ระยะห่าง

หากเคียงชิดกลั้ยยยย แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่าง เพื่อช้านอาน
ประโยชน์ที่ดัยยย หากรักทำร้ายตัวเอ เอง
หากเดินแนบกายยยย มีพลั้งต้องล้มลงเจ็บ ด้วยกัน
ห่างเพียงนิดเดียววว ให้รักเป็นสาย ลมผ่าน ระหว่างเรา
แบ่งที่ว่างตรงกลางไว้คอย เพื่อให้เราได้ถึงดั่งฝัน....ร่วม กันนนน



คิดว่าคุณผู้อ่านหลายๆท่าน คงรู้จักเพลงนี้เป็นอย่างดี เคยเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักเรียนนักศึกษาในยุคนั้น (พ.ศ.2539)เพลงที่พูดถึงระยะห่างของความสัมพันธ์ ระยะห่างที่ว่านี้ ในเพลงเรียกมันว่า ที่ว่าง และเป็นชื่อของเพลงด้วย
วงพอส เป็นวงดนตรีที่เรียกตัวเองว่าเป็นอเมริกันร็อค จากค่ายเบเกอรี่มิวสิค ออกวางจำหน่ายครั้งแรก เมื่อ ปี2539เป็นวงดนตรีที่ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับแถวหน้าของเมืองไทยในยุคนั้นก็ว่าได้ เสียงร้องของพี่โจ้ได้รับการกล่าวขานว่า เป็นเสียงร้องที่หาใครเปรียบได้ยาก ทั้งสูง กว้าง และก้องกังวาน และก็เป็นเช่นนั้นจริง เพลงที่ว่าง ก็เป็นหนึ่งในหลายๆเพลงที่สร้างชื่อให้กับวง เนื้อหาของเพลงถ่ายทอดมุมมองของความเข้าใจความต้องการพื้นฐาน ความต้องการตามธรรมชาติของมนุษย์ปุถุชนได้อย่างชัดเจน กระจ่างใจ
ทำไมความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ จึงจำเป็นต้องเว้นที่ว่าง เว้นระยะห่างไว้ แล้วที่ว่างต่อรูปแบบความสัมพันธ์นั้น มันต้องขนาดไหน อย่างไรกันละ
ในเนื้อเพลงก็บอกไว้ประมาณนึงครับ จริงๆแล้วระยะห่างหรือที่ว่างที่กล่าวไป มันจำเป็นต้องมีจริงหรือ แล้วถ้าไมมีละ มันจะเป็นอย่างไร ในเนื้อเพลงก็บอกไว้อยู่เหมือนกัน เป็นในลักษณะข้อเท็จจริงและอุปมาอุปมัยในขณะเดียวกัน ก็พอเข้าใจ พอจะนึกภาพออกอยู่บ้าง สำหรับผมตอนนั้นครั้งที่ยังเป็นวัยรุ่น โดยมากเมื่อฟังเพลงที่โดนใจแล้ว มันจะรู้สึกเข้าอกเข้าใจเนื้อหาไปเองครับ ทั้งๆที่เนื้อหาของเพลงบางเพลงนั้น เราไม่เคยมีประสบการณ์ตรงด้วยตัวเองมาก่อนเลย ไม่รู้คุณผู้อ่านเคยเป็นกันบ้างรึเปล่า พอถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังรู้สึกไปกับเพลงๆนี้เหมือนเดิมอย่างที่เคยรู้สึก ซึ่งมันจะไม่เกิดความรู้สึกแบบนี้กับทุกเพลงที่เราชอบหรอกนะครับ คือกับเพลงบางเพลงเราจะรู้สึกต่างออกไปเมื่อวัยและประสบการณ์เพิ่มขึ้น(เป็นที่น่าสังเกตุว่า ดนตรี บทกวี งานศิลปะแขนงใดก็ตาม ถ้ามันกระทบใจผู้เสพให้รู้สึกไปตามสิ่งที่ผู้สร้างสรรค์ต้องการจะสื่อแล้วละก็ ในศาสตร์ทางด้านการสื่อสาร ถือเป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากครับ กระบวนการเกือบสมบูรณ์แล้ว ที่เหลือคือผลตอบรับจากผู้เสพ ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ มันแล้วแต่คนเสพ ว่าจะเลือกตอบสนองออกมาเป็นพฤติกรรมหรือไม่ ท้ายที่สุดงานศิลปะก็เปิดกว้างให้ผู้เสพตีความได้เองอยู่ดี ไม่ต้องกังวลเรื่องผิดถูกว่างั้นเถอะ)เนื้อหาและอารมณ์ของเพลง ที่ว่าง นั้นเข้าถึงใจผู้ฟังได้อย่างไม่ต้องพยายามมาก ดูมีวุฒิภาวะ น่าเชื่อถือ ไม่ได้ยกตนมาสั่งสอนแต่เป็นการเล่าให้ผู้ฟังเห็นภาพด้วยตัวเอง เมื่อฟังแล้ว ก็รู้สึกว่า  เออ จริงแฮะ(ความรู้สึกอีกแล้ว)
ผมได้ทบทวนความทรงจำเรื่องราวเก่าๆ ในหลายช่วงเวลาของชีวิตที่ผ่านมา ผมพบว่าความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด ทุกๆความสัมพันธ์นั้นจำเป็นและสมควรมีการเว้นระยะห่างครับ ห่างไว้ทำไม เป็นคำถามที่ดีมากครับ คำตอบที่ได้ก็คือ ห่างไว้สำหรับ พื้นที่ความเป็นส่วนตัวครับ


พื้นที่ที่ว่านี้ เว้นว่างไว้ทำไม เพื่อให้เราได้ตามหาฝันอย่างในเพลง?มันก็ใช่ และมันก็ไม่ใช่แค่นั้น มันยังใช้ทำอย่างอื่นได้อีกเยอะเลย เช่น เอาไว้หยุดพักเพื่อเยียวยาจิตใจ หลบลี้หนีบางสิ่ง เพื่อตั้งสติ เติมพลังชีวิต เราสามารถจะมีอิสระเสรีมีสิทธิ์ขาดในพื้นที่ที่เว้นว่างไว้นี้ อย่างที่ชีวิตจริงของเราไม่อาจมีหรือทำได้ การได้ปลดปล่อยจินตาการ ตัวตนของเราในแง่มุมต่างๆที่เราอาจไม่คิดว่าจะเป็นหรือมี การคิด พินิจ พิจารณา หาเหตุผล การเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป ส่วนตัวแล้วผมว่ามันคงไม่มีอะไรที่จะเปิดกว้าง ยอมรับและโอบกอดเราได้มากไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับพื้นที่ส่วนตัวของมนุษย์หนึ่งคน อาจเป็นแค่สมุดไดอารี่เล่มเล็กๆ อาจจะเป็นแค่การนอนรับลมเย็นๆใต้ต้นไม้สักต้น อาจจะเป็นแค่การร้อง ฮัมเพลงที่ชอบขณะอาบน้ำ แค่ชั่วขณะที่จิตใจเราล่องลอยออกไปจากความวุ่นวายความเครียด กดดัน ที่เผชิญอยู่ในขณะนั้น


เมื่อยังเด็ก เราอาจยังไม่ตระหนักว่า ความเป็นส่วนตัวนั้น มันจำเป็นมันสำคัญกับชีวิตของเราอย่างไร จนกระทั่งเริ่มย่างก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านของวัย เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงทางสรีระร่างกาย เริ่มมีขนขึ้นบริเวณหัวหน่าว เมื่อเด็กชายเริ่มเสียงห้าว เด็กหญิงเริ่มมีหน้าอกหน้าใจ เมื่อเราเริ่มรู้สึกเขินอาย ยามเปลือยกายต่อหน้าคนอื่นเมื่อนั้นเองเราจึงจะตระหนักถึงคุณค่าของอาภรณ์และความเป็นส่วนตัวขึ้นมาโดยไม่ต้องมีใครมาบอกสอน หรืออธิบายให้มากความ

แล้วถ้าชีวิตคนมันขาดความเป็นส่วนตัวแล้ว มันจะเป็นอย่างไรกันละ สำหรับผม มันคงเครียดและกดดันน่าดู สำหรับคนอื่นผมไม่รู้นะ แล้วถ้ายิ่งคนเคยมี แล้ววันนึงพื้นที่นั้นมันโดนล่วงล้ำก้าวก่ายเข้าไปจะโดยใครหรือเหตุผลกลใด มันก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่าพิศมัยอย่างแน่นอน แค่คิดก็เครียดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ พื้นที่ทางกายภาพ หรือแม้แต่พื้นที่ในจิตใจเราก็ตาม ของๆเรา ที่ของเรา ความคิดความอ่านของเรา มันไม่ควรจะถูกแชร์ออกไปโดยที่เราไม่เต็มใจ
ใช่ครับ มันสำคัญมาก มันควรจะเป็นไปด้วยความสมัครใจ พร้อมใจไม่ใช่โดนกดดันบังคับขู่เข็ญเรียกร้องเอาโดยคนอื่น  ดั่งเช่นคำกลอนบทนี้ครับ
อันความกรุณาปราณี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน
ซึ่งมันผิดไปจากที่เราเจอะเจอในชีวิตประจำวันใช่ไหมครับ เพราะจริงๆเราเจอแต่คนเรียกร้องหาน้ำใจจากคนอื่น โดยมีข้ออ้างสารพัดอย่าง  หากเขาไม่ได้อย่างที่ต้องการ เราจะถูกมองประดุจเป็นอาชญกรแผ่นดินทีเดียว ผมได้แต่ถามตัวเองว่า ทำไมผมถึงต้องอยู่ในสังคมเดียวกับคนพวกนี้ ทำไมเราต้องโดนเอารัดเอาเปรียบตลอดเวลา ทำไม ..ทำไม..

การจากไปอย่างกระทันหันของพี่โจ้ สร้างความสะเทือนใจต่อมิตรรักแฟนเพลงทั้งหลาย รวมถึงผมด้วย ช็อคและตกใจมากที่คนที่มอบความสุขให้กับเราด้วยเสียงเพลงนั้นจากไปโดยไม่มีวันกลับ แม้ผมและแฟนคนอื่นๆจะไม่ได้รู้จักมักจี่กับพี่โจ้เป็นการส่วนตัวเลยก็ตาม

เมื่อไม่นานมานี้ วงพอสได้กลับมามีซิงเกิ้ลใหม่ โดยมีเสียงของพี่โจ้ ที่อัดเก็บไว้ก่อนเสียชีวิต อยู่ในเพลงนี้ด้วย ต้องเรียกว่าเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเพลงไทยและคงพอจะทำให้แฟนๆได้หายคิดถึงกันบ้าง แล้วตอนนี้วงพอสก็ได้สมาชิกใหม่ในตำแหน่งร้องนำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการเปิดโอกาสให้แฟนเพลงของวงร้องเพลงคัฟเวอร์เพลงของวงพอส แล้วส่งมาทางแฟนเพจของวง นักร้องคนใหม่ก็คือแฟนเพลงคนนึง ที่ส่งเพลงคัฟเวอร์มาที่แฟนเพจนั่นเอง ยินดีด้วยครับกับการกลับมาของวงพอส หวังว่าพวกเราคงได้ฟังผลงานชิ้นใหม่ในเร็ววันนี้
แล้วที่ว่างของวงพอส ก็ถูกเติมเต็มเสียที

ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ เชสเตอร์ เบอร์นิงตั้น นักร้องนำวงลินคิ้นพาร์คอย่างสุดซึ้ง มา ณ.โอกาสนี้ด้วย เราจะคิดถึงนาย เชสเตอร์ หลับให้สบายนะ
พบกันใหม่ในตอนหน้าถ้าโทรศัพท์ผมยังดีอยู่








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข่าวดี มีมานานแล้วครับ

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปจากการอัพเดต​บล็อค​ไปนาน ผมก็ขออนุญาต​กลับมาทำหน้าที่อีกครั่งหนึ่ง สำหรับวั...