วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันนี้
โดยปกติแล้ว ผมจะติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่เสมอมิได้ขาด ความสนใจของผมอยู่ในวงจำกัด ในวงจำกัดนั้น มีเรื่องการเมืองแซมอยู่ในความสนใจอยู่บ้าง คือพอรู้ ไม่ได้รู้ลึกเชี่ยวชาญ (จริงๆแล้ว เรื่องอื่นๆก็เหมือนกัน) สิ่งที่ผมและผู้อ่าน พบเจอและรับรู้ผ่านสื่อสารมวลชนตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ย่อมเป็นเรื่องการชุมนุนทางการเมือง อย่างแน่นอน(ปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม 2556)









ความรู้สึกของผมกับข่าวการเมือง ก่อนหน้าเหตุการณ์วิกฤตข้างต้น นั้นก็คงไม่ต่างกับผู้คนอีกไม่น้อย ที่รู้สึกเบื่อหน่าย และหมดหวังกับการเมืองในภาพรวม ทั้งตัวนักการเมือง วิธีการทำงาน การทุจริตคอร์รัปชั่น คุณธรรมและจริยธรรมรวมถึงอุดมการณ์ ความจริงใจของฝ่ายการเมืองที่จะพยายามแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองและประชาชนอย่างจริงจัง และอื่นๆ ทั้งรัฐบาลชุดปัจจุบัน และรัฐบาลชุดก่อนๆ ความห่วยแตกของการเมืองที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า กับบ้านเมืองนี้มันมากพอที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกแบบเดียวกับผมได้ไม่ยาก ไม่อาจบอกได้ว่าคนที่คิดเห็นเช่นเดียวกับผมมีจำนวนมากน้อยเท่าใด มันอาจจะไม่มากพอที่จะทำให้สังคม การเมืองไทยเปลี่ยนแปลงได้ชั่วข้ามคืน แต่พวกเราก็ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง จะช้าจะเร็วก็ขอให้เปลี่ยน เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ขอให้นัการเมืองมีสปิริตมีอุดมการณ์ มีความจริงจังและจริงใจที่จะแก้ปัญหา มีคุณธรรมจริยธรรมควบคู่ไปกับอำนาจบริหารบ้านเมือง หรือที่เราอาจจะคุ้นกับคำว่า ปกครองโดยใช้หลัก ธรรมาภิบาล นิติธรรม นั่นเอง หลักการและวิธีการมันการฟังดูง่ายๆแบบที่ผมว่านี่แหละ แต่ตลอดระยะเวลาที่ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ก็ยังไม่เคยเห็นว่าจะมีนักการเมืองที่มีคุณสมบัติที่ว่ามานี่กันซักกี่คน เท่าที่ศึกษาที่อ่านมา คนดีๆมักจะไม่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งการเมือง หรือถ้าโชคร้ายหลุดเข้าไปในวังวนการเมืองแล้ว มักจะอยู่กันไม่ได้ เพราะมีพวกน้อย เงินน้อยและถูกบีบให้พ้นทาง ไม่ก็ถูกระบบอำนาจ และเงินตรากลืนกิน กลายพันธุ์จากเทวดาเป็นซาตาน เป็นเช่นนี้เสมอมา









มีบางมุมมองกล่าวว่า เหตุการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่นี้ เป็นปรากฏการณ์ที่ดี เป็นพัฒนาการทางการเมืองที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สะท้อนให้เห็นว่าประชาธิปไตยในบ้านเรากำลังก้าวไปอีกขั้น ว่ากันขนาดนั้นก็มี









โดยส่วนตัว ผมเห็นว่าไม่มีทางที่ความวุ่นวายในรูปแบบเดิมๆนี้จะจบลงง่าย ถึงฝ่ายนี้จะชนะในวันนี้ แต่อีกฝ่ายจะทำแบบเดียวกันนี้ซ้ำเดิมอีกในวันข้างหน้า พี่น้องชาวไทยทั้งหลายก็ต่างเห็นมาด้วยตากันมาแล้วรอบนึง ในขณะที่ผมเองรู้สึกมืดมน หมดหวังปนสังเวชประเทศนี้และชะตากรรมของคนไทยอยู่ ความหวังดังแสงทองก็ทาบทอมากระทบ









เมื่อวานนี้(7 ธันวาคม) ผมได้มีโอกาสชมรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง รายการได้นำเสนอ วิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆโดยเน้นวิธีการพูดคุยด้วยเหตุผลของคู่กรณีที่เกิดข้อพิพาท วันนั้นรายการได้นำเอาตัวแทนมวลชนของทั้งสองฝั่ง(เสื้อแดง และฝ่ายที่ออกไปชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในขณะนี้)มาร่วมพูดคุยถึงสาเหตุปัญหาความขัดแย้งและร่วมกันเสนอทางแก้ไข ผมไม่ได้คาดหวังอะไรนักเมื่อเปิดมาเจอ แต่พอดูไปฟังไปแล้ว ผมเริ่มมีความหวัง ถ้าสิ่งที่คนทั้งสองฝั่งพูดและนำเสนอทางแก้ไขได้รับการผลักดันให้เกิดขึ้นจริง (ในใจก็คิดว่า น่าจะดีถ้าประชาชนทั้งหลายได้รับชมรายการในวันนี้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องออกไปประท้วงให้เสียการเสียงานเสียเลือดเสียเนื้อ ไม่ต้องเกลียดชังกันหรือมุ่งหมายเอาชีวิตกัน ทั้งๆที่เป้าหมายที่แท้จริงก็คือสิ่งเดียวกัน) เนื้อหาจะเป็นอย่างไร ผมว่าผู้อ่านคงอยากรู้แล้ว ผมจึงนำลิ้งของรายการมาให้ผู้อ่านไปติดตามชมกันด้วยตัวเอง แล้วมาช่วยกันพิจารณาว่า ผมหวังลมๆแล้งๆรึเปล่า









ขอบคุณผู้อ่านที่ติดตาม ผมจะพยายามไม่เขียนเรื่องการเมืองอีก ตอนหน้าจะหาเรื่องราวดีๆเบาๆมานำเสนอครับ











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข่าวดี มีมานานแล้วครับ

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปจากการอัพเดต​บล็อค​ไปนาน ผมก็ขออนุญาต​กลับมาทำหน้าที่อีกครั่งหนึ่ง สำหรับวั...