วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คำอธิษฐานของเกษตรกรพาร์ทไทม์

คำอธิษฐานของเกษตรกรพาร์ทไทม์

เมเดย์ๆเกษตรกรเรียกฮุสตั้น ขณะนี้บางที่เกิดฝนทิ้งช่วง กล้าข้าวกำลังทยอยแห้งตายอยู่อย่างต่อเนื่อง เราต้องการฝนฉุกเฉินๆๆ...... ผมยืนมองกล้าข้าวในนาอย่างเลือยลอยและสิ้นหวัง ภาพตัวผมกำลังตื่นตระหนก ละล่ำละลักขอความช่วยเหลือผ่านสัญาณดาวเทียม อยู่ในกระสวยอวกาศที่สูญเสียควบคุมและกำลังดิ่งลงพื้นโลกด้วยความเร็วกว่าสามร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง มันเป็นภาพแบบในหนังฮอลลิวู้ด เสียงพากย์ล้อเลียนโดยพันธมิตร ด้วยสถานการณ์ตรงหน้า ผมเองไม่รู้สึกตลกหรือขำต่อภาพและเสียงในหัวแม้แต่น้อย

ก่อนหน้านี้สามสัปดาห์ ฟ้าฝนก็ตกลงมาตามที่มันควรจะมา สัปดาห์ที่สองผมและเกษตรกรคนอื่นๆเริ่มไถ่หว่านกันตามฤดูกาล สัปดาห์ที่สอง กล้าข้าวเริ่มงอกงาม พร้อมกับการจากไปอย่างไม่ใยดีของฟ้าฝน ต้องบอกว่า ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเจอฝนขาดช่วงในเดือนมิถุนาฯในพื้นที่นี้ เคยเห็นในพื้นที่อื่นๆที่ไม่ใช่ที่นี่และเคยเห็นในโทรทัศน์เท่านั้น ไม่นึกและว่าจะได้เจอเป็นประสบการณ์ตรงเช่นนี้ เซ็งชะมัดเลยคุณผู้อ่าน นี่ตั้งใจว่าจะแก้ตัวจากความล้มเหลวเมื่อปีกลาย แต่นี่จะล่ม ทั้งที่เพิ่งจะเริ่ม เฮ้อ เริ่มเข้าใจหัวอกคนทำเกษตรตัวจริงขึ้นมากโข แต่จะกลุ้มไปคงไม่มีประโยชน์อันใด ต้องเข้าใจว่า ฟ้าฝนนี่มันอยู่นอกเหนือความควบคุม ความมุ่งหวังตั้งใจของเราจริงๆ

ผมคิดอยู่สองสามวันมาแล้วว่าจะจัดการอย่างไรดี ผมได้ข้อสรุปในใจแล้ว ผมต้องยืดหยุ่นต่อแผนที่วางไว้มากซักหน่อย จากที่ตั้งใจจะทำนาดำ เพื่อหวังผลผลิตสูงสุด พร้อมลดต้นทุนด้วยการเตรียมปุ๋ยน้ำชีวภาพไว้คอยท่าพร้อมสรรพ แต่ในเมื่อข้าวกล้าที่ลงไว้ใกล้จะตายเพราะฝนทิ้งช่วงอยู่มะรอมมะร่อ ผมจะใช้วิธีการหยอดเมล็ดอีกครั้งหนึ่ง หุๆ คงจะไม่ใช้เครื่องหยอดอย่างที่เคยใช้หรอกครับ เพราะเข็ดแล้ว แหะๆ เค้าว่า ช่วงที่พื้นนากำลังแห้งหมาดนี่แหละ กำลังเหมาะที่จะหว่าน เค้าว่าข้าวมันจะงอกดีกับสภาพดินและอากาศประมาณนี่ แต่ผมไม่เชื่อเค้าหรอก ผมจึงต้องลองพิสูจน์ไงครับ ผมเลือกที่จะหยอดทีละหลุมแทนการหว่าน หยอดทีละหลุมๆ ไป หนึ่งหลุมใช้พันธุ์ข้าวมากสุดสามเมล็ด เราจะประหยัดพันธุ์ข้าวได้เยอะกว่านาหว่านหลายเท่า(ซึ่งนิยมกันมากในปัจจุบัน) ลดขั้นตอนการถอนกล้าแล้วปักดำ ซึ่งมืออาชีพหลายท่านเตือนด้วนความหวังดีว่า มันเป็นขั้นตอนที่แสนเหนื่อยสาหัสสากรรนัก ปีที่แล้วใช้เครื่องหยอดแบบลาก เมล็ดข้าวหล่นลงผิวดิน โดยไม่มีการกลบดิน ส่วนหนึ่งจึงกลายเป็นอาหารของนกบ้าง หนูบ้าง พื้นที่ที่ข้าวหายไปจึงเต็มไปด้วยหญ้าแทนต้นข้าว แต่ครั้งนี้มันจะไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ข้อผิดพลาดต่างๆจะได้รับการแก้ไข และเมื่อวานนี้ผมยังได้ดูวิธีการปลูกข้าวของคนดอยในรายการโทรทัศน์ช่องนึงอีกด้วย ทั้งวิธีการและแนวคิด เหมือนกับที่ผมคิดไว้ยังไงยังงั้นเลย อีกอย่างผมยังมั่นใจว่าในที่สุด ฝนห่าใหญ่ในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล จะโปรยปรายลงมาอย่างเหลือล้น รับการงอกงามของข้าวกล้ารุ่นที่สองนี้อย่างพอเหมาะพอดี ผมเชื่ออย่างนั้น และผมจะอธิษฐาน ในฐานะของเกษตรกรพาร์ทไทม์ คนนึง

ผมขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายตลอดจนทวยเทพผู้มีอำนาจทั้งปวง จงดลบันดาลให้ฟ้าฝนตกลงมาเหมือนอย่างที่เคย นั่นคงไม่มากไป สำหรับผู้คนอีกมากมายที่จะต้องเดือดร้อน หากว่าฝนฟ้ายังไม่เป็นใจเช่นนี้

ชีวิตช่วงนี้ของผมสอนให้ผมรู้ว่า ต่อให้มีองค์ความรู้แค่ไหนก็ไม่อาจช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้ ถ้าหากฝนทิ้งช่วง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข่าวดี มีมานานแล้วครับ

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปจากการอัพเดต​บล็อค​ไปนาน ผมก็ขออนุญาต​กลับมาทำหน้าที่อีกครั่งหนึ่ง สำหรับวั...