วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560

ปลายทาง

Cmaj7 Bm7 Cmaj7 Bm7



Cmaj7แสงสว่างเห็นมันอยู่ไม่ไกล ที่Bm7ปลายทาง






Cmaj7ฉันยืนอยู่นิ่งงันอยู่เนิ่นนาน กลัวจะBm7ไป ไม่ถึงE






 มัน Am7จะถอดใจ C คงไม่ทันแล้วDใจ ใจเจ้าเอ๋ย






Cmaj7แม้นถ้าหากฉันเองได้ล้มลง เพราะBm7กายเหนื่อย






 Cmaj7ก็คิดว่าคงไม่ทำให้ถึงตาย เราBm7เพียงพัก แล้วEไป






ต่อ Am7พักกินข้าวกินปลาก่อน C พักกินน้ำกินท่าก่อน




Dไป






G อีกไม่นานก็Cถึงแล้วปลายGทางที่ฝัน ที่หวังCตลอดมา





G อาจมีหยุดมีCท้อเพราะเธอนั้นGเหนื่อยล้า คนอาจกล่าว






C หาว่าเธอขี้Amแพ้ เธอCทำได้Dดีกว่านั้น Gอาจจะเป็น






ความCหมายของการมีGชีวิตอยู่ นั้นก็คือเหตุCผลที่จะ






ก้าวไป Gสู่จุดหมายCข้างหน้า ไม่ว่ามันจะAmเกิดอะไร






ก็C ขอให้เราไปDถึงอย่างที่ใจ Gหวัง








บทเพลงข้างบนนี้ผมตั้งชื่อว่า ปลายทาง ปลายทางเป็นเพลงช้า เนื้อหาเกี่ยวกับการให้กำลังใจตัวผมเอง เขียนขึ้นเมื่อประมาณปี53หรือ54จำไม่ได้แน่ชัด แต่มีบันทึกวันเวลาที่แน่นอนไว้ในโน๊ตบุ๊ค ซึ่งเสียแล้วไม่มีตังค์เอาไปซ่อม เนื้อหาเนื้อเพลง ผมหยิบมาร้องมาซ้อมบ่อยๆจึงจำได้ขึ้นใจ มีดัดแปลงแก้ไขเนื้อร้องอยู่สามสี่ครั้ง และนี้ก็เช่นกัน มีแก้เนื้อท่อนสุดท้ายเล็กน้อย นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผมคิดจะทำ แล้วได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้ ซึ่งเมื่อมันสำเร็จ ก็รู้สึกยินดีไม่น้อย ผมหวังว่าสักวันจะได้นำมันบันทึกเสียงในห้องอัดให้เป็นเรื่องราวอย่างเขาบ้าง แต่หลังจากงานการที่ลุ่มๆดอนๆไม่เป็นโล้เป็นพาย ถูกเชิญให้ออกในทุกๆที่ๆที่ทำงาน ไม่เคยก้าวหน้า เมื่อทำได้สักเดือนสองเดือนจะต้องมีเหตุที่ทำให้ต้องระเห็ดระเหเร่ร่อนก่อนเวลาที่ต้องการอยู่เสมอ ความหวังที่อยากจะทำเพลงเป็นของตัวเองจึงเป็นเพียงความหวังลมๆแล้งๆ ไหนๆมันก็อาจจะไม่มีวันนั้นเพราะความไม่มีของผม แต่ผมก็ยังมีพื้นที่ของผม ที่นี่นี่เองที่ผมมีสิทธิ์ขาด เป็นเผด็จการผู้ทรงอำนาจในนี้แต่เพียงผู้เดียว ผมจึงขอใช้โอกาสและพื้นที่นี้ เผยแพร่ผลงานที่ไม่สมบูรณ์ ชิ้นนี้และชิ้นต่อๆไปให้ออกสู่สายตาคุณผู้อ่านทุกท่านที่หลงเปิดเข้ามาอ่าน ด้วยเจตจำนงค์อันบริสุทธิ์ ของคนชายขอบเช่นผมครับ
การดิ้นรนเพื่อการทำงานหาเลี้ยงชีพให้อยู่รอดในเมืองท่องเที่ยวที่ค่าครองชีพสูงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ เป็นเรื่องไม่ง่ายเลย นี่เป็นหนึ่งในหลายสาเหตุที่ทำให้ผมห่างหายจากงานเขียนไปเกือบสามปี ไม่ได้แก้ตัวนะครับ แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ อย่างที่บอกไปครับ นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆสาเหตุ เพราะมันมีหลายสาเหตุนี้แหละ ที่ทำให้ผมรับมือกับมันไม่ค่อยจะไหว กว่าจะรู้ตัวอีกที่ผมก็โดนความต้องการพื้นฐานของมนุษย์กัดกินจิตวิญาณแห่งการสร้างสรรค์ไปทีละน้อยๆ วันเวลาค่อยๆหมุนไปกับความเครียดต่างๆนานา
ปลายทางของผม อาจไม่ใช่ความสำเร็จทางด้านการเงิน ความมั่นคงของชีวิต อาจจะเป็นแค่วันที่ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าความจริงกับความฝัน มันเชื่อมต่อกันอยู่เสมอ แทบจะตลอดเวลา ถึงแม้จะมีใครอยากจะพรากสองสิ่งนี้ออกจากกัน ออกจากเรา ออกจากคุณผู้อ่าน เขาก็ทำได้แค่เบี่ยงเบนความสนใจเราเท่านั้นเอง ผมเชื่อแบบนั้น พวกเขาไม่มีวันพรากมันไปจากเรา จิตวิญญาณอันเสรีจะไม่มีวันถูกจองจำ ขออภัยคุณผู้อ่านทุกท่านด้วยนะครับผมว่าผมออกจะเครียดมากไปหน่อย
ออ ขอบ่นต่ออีกนิดครับ อุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟนนี่ ฟังก์ชั่นบางอย่างก็มีข้อจำกัดอยู่พอสมควร งานสองสามชิ้นที่ผ่านมามันเลยไม่ได้อย่างใจเท่าไหร่ งี้แหละครับ คนไม่มีตังค์ อะไรๆก็ดูเหมือนจะตีบตันไปซะทุกอย่าง แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ หึๆ

เพิ่มคำอธิบายภาพ
จากวงเวียนเกาะสิเหร่ เลี้ยวซ้าย สองปีที่แล้ว









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข่าวดี มีมานานแล้วครับ

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปจากการอัพเดต​บล็อค​ไปนาน ผมก็ขออนุญาต​กลับมาทำหน้าที่อีกครั่งหนึ่ง สำหรับวั...