วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ความว่างเปล่ากับความเหงา

สองสิ่งข้างต้น มักมาคู่กัน เมื่อจิตใจมนุษย์ไม่เข้มแข็งพอที่จะอยู่กับความว่างเปล่าในจิตใจ ก็มักจะโหยหาสิ่งใดๆก็ตาม เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากสภาวะนั้น บางครั้งผู้เขียนก็ประสบพบพานบ้าง เป็นครั้งคราว วิธีจัดการกับความเหงานั้น มนุษย์มักนึกถึงคนอื่นก่อนเสมอ น้อยคนนักจะตระหนักว่า ในท้ายที่สุด ตัวเรานั้นเอง จะเป็นผู้กำหนดว่า เราต้องการผู้อื่นมาเติมเต็ม หรือว่าเราแค่รับรู้ว่า มันเป็นเพียงหนึ่งสภาวะของจิตใจ ที่จะวนเวียนมาสู่ชีวิตเรานับครั้งไม่ถ้วน และแน่นอนที่สุด เมื่อมันผ่านเข้าเอง มันย่อมไปได้เองเช่นเดียวกัน แต่การเข้าใจและยอมรับซึ่งนำไปสู่แนวทางจัดการกับสภาวะทางจิตใจที่ว่านี่ ใช่ว่าจะทำกันได้ง่าย อาจต้องใช้เวลา และบททดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า นึกถึงทฤษฎี การปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ไม่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่มีความสามารถแบบนั้น สิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกนี้ต่างมีบรรพบุรุษที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค บททดสอบเพื่อให้ตนเองและเผ่าพันธุ์นั้นอยู่รอดกันแทบทั้งสิ้น หากมองในแง่หนึ่ง เราสามารถได้ประโยชน์จากความเหงาได้เช่นเดียวกัน ช่วงเวลาเหล่านี้ เราอาจจะมองเห็น คนที่ห่วงใยเรา ปรากฏตัวออกมา มักจะไม่ใช่ใครที่ไหนอื่นไกล และมักจะเป็นคนเดียวกันกับคนที่เรามองข้ามความสำคัญของเขาเสมอๆ และพวกเขาก็แวดล้อมอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกเมื่อเชื่อวัน คนในครอบครัวเรานี่เอง  น่าเศร้าหากเราไม่เคยมีคนเหล่านั้นอยู่เลยในชีวิต
เรากินอาหารเพื่ออยู่รอด มีมิตรภาพ ความผูกพัน มีสายสัมพันธ์เพื่อหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ ชีวิตในบางแง่มุมช่างเรียบง่าย ผ่อนคลาย ผมรู้สึกดีใจที่ผมได้ค้นพบมันด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องมีใครมาบอกกล่าว ผมอยากมีความรู้สึกแบบนั้น ทุกๆวันมันคงจะวิเศษไปเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข่าวดี มีมานานแล้วครับ

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปจากการอัพเดต​บล็อค​ไปนาน ผมก็ขออนุญาต​กลับมาทำหน้าที่อีกครั่งหนึ่ง สำหรับวั...