วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ความอัปยศของวงการฟุตบอลไทย (อีกครั้ง)

การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก หรือฟุตบอลถ้วย ก ประจำปี 2553 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผู้อ่านคงได้เห็นเหตุการณ์ในสนามศุภภัชลาศรัยจากสื่อต่างๆพอสมควร ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น คิดว่าผู้อ่านคงรู้สึกไม่ต่างกับผู้เขียน และประชาชนไทยอีกหลายสิบล้านคน การทะเลาะวิวาทระหว่างแฟนบอล เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะในประเทศของเราเองหรือในต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องผิดที่เรามีทีมรักทีมเชียร์ที่ต่างกัน ทำไมแฟนบอลของการท่าเรือฯบางคน จึงก่อเหตุอันน่าเศร้าสลด และน่าอัปยศอดสูเช่นนะหรือ ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจได้ยาก ผมเชื่อว่าคนเรามีสิทธิที่จะรักศรัทธาสิ่งใดก็ตาม ได้อย่างเป็นอิสระเสรี โดยความแตกต่างเฉพาะบุคคลไม่ได้เป็นข้อจำกัดแต่อย่างใด การแสดงออกต่อทีมรักของแฟนฟุตบอลทีมการท่าเรือแห่งประทศไทยบางคน ในวันนั้น เป็นการฉุดวงการฟุตบอลไทยให้ถอยหลังไปอีกหลายก้าว  ทั้งยังเป็นการดิสเครดิตของสโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทยไปโดยปริยาย สื่อมวลชนบางแห่งกล่าวไว้เช่นนั้น  แฟนฟุตบอลทีมการท่าเรือฯบางคน ที่แสดงออกถึงความรักและศรัทธามากจนเกินเหตุ มากจนถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเลยก็ว่าได้
ผลของการตัดสินของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นสอบสวน มาตรการการลงโทษ รวมทั้งการดำเนินการทางกฏหมายต่อสโมสรการท่าเรือฯและแฟนบอลที่ก่อเหตุ ไม่ว่าบทลงโทษจะสาหัสสาสมเพียงไหน ก็ไม่ได้ทำให้ภาพความอัปยศ นั้นเลือนหายไปจากความทรงจำของแฟนฟุตบอลไทยทั่วประเทศได้โดยง่าย ไม่เพียงนำความเสียหายต่อสโมสรและแฟนบอลของการท่าเรือฯทั้งหมดเองเท่านั้น ภาพลักษณ์โดยของวงการฟุตบอลไทย ที่กำลังดีวันดีคืน กลับต้องพังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี
พฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ของแฟนฟุตบอลทั่วโลก มักจะมี แอลกอฮอลล์เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ กรณีที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้มีข้อยกเว้น คำถามคือ เหตุใดจึงปล่อยให้มีการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ของแฟนฟุตบอลของการท่าเรือฯโดยไม่มีการควบคุม ปล่อยให้มากินในสนามได้ยังไง และเมื่อเกิดเหตุ หน่วยรักษาความปลอดภัย ดูเหมือนจะไม่เต็มใจปฏิบัติงานให้เต็มที่ ผมว่า พวกเข้าพลาดตั้งแต่ปล่อยให้คนเอาเหล้าเข้ามาดื่มในสนามแล้ว อาจจะมีการดื่มมาก่อนนั้นควบคุมไม่ได้ พอเข้าใจ แต่ปล่อยให้นำเข้าไปในสนามด้วยนั้น เป็นเรื่องที่น่ากังขา
ระบบการรักษาความปลอดภัยที่หละหลวมเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุเท่านั้น สปิริตของคนดูคนเชียร์ต่างหากเป็นสาเหตุใหญ่ ซึ่งไม่ว่าที่ไหนในโลก หากสำนึกรับผิดชอบหรือสปิริตนั้นไม่มี หรือมีไม่พอ เหตุการณ์เหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นอีกได้เสมอ
เสรีภาพของแฟนฟุตบอลบางคนของสโมสรการท่าเรือฯนั้น ปราศจากความรับผิดชอบอย่างสิ้นเชิง อย่างหาข้อแก้ตัวไม่ได้เลย
เห็นแล้วสลดจริงๆ พลังของคนส่วนหมู่มาก รังแกคนส่วนน้อยนั้น เห็นได้ชัดเจนที่สุดจากภาพข่าวที่ผู้อ่านทุกท่านได้เห็นกับตานั้นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข่าวดี มีมานานแล้วครับ

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปจากการอัพเดต​บล็อค​ไปนาน ผมก็ขออนุญาต​กลับมาทำหน้าที่อีกครั่งหนึ่ง สำหรับวั...